ก่อนที่จะไปถึงเรื่องการเตรียมตัวกู้ซื้อบ้าน มาดูวิธีการเลือกซื้อบ้านที่ตอบโจทย์ เพื่อให้คุณสามารถกำหนดงบประมาณในการซื้อบ้านที่เหมาะสมกับรายได้ของคุณ
โดยการเลือกซื้อบ้านที่ตอบโจทย์ นอกจากการมองเรื่องความสวยงามและน่าอยู่เแล้ว บ้านที่จะซื้อยังต้องตอบความต้องการของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ทั้งความสะดวกสบาย การเดินทาง ความปลอดภัย และงบประมาณด้วย
การเลือกประเภทของบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดงบประมาณในการซื้อบ้านได้ เพราะที่อยู่อาศัยแต่ะละประเภทต่างก็มีราคาที่สูงต่ำแตกต่างกันไปตามรูปแบบ ขนาด และทำเลที่ตั้ง
เช่น ชอบใช้ชีวิตอยู่ในเมือง เดินทางสะดวกด้วยขนส่งสาธารณะ และไม่อยากเร่งรีบในการเดินทางไปมากนัก การเลือกที่อยู่อาศัยเป็นคอนโดมิเนียมก็จะตอบโจทย์
หรือถ้าชอบที่อยู่อาศัยที่ได้พื้นที่เยอะ มีหลายห้องนอน หลายห้องน้ำ เหมาะสำหรับครอบครัว แต่อาจจะอยู่ห่างจากตัวเมืองออกมา การเลือกที่อยู่อาศัยเป็นบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า
หากคุณกำลังเลือกเปรียบเทียบระหว่างการเลือกซื้อบ้านจัดสรร กับบ้านแบบอื่นๆ ว่าซื้อแบบไหนจะคุ้มค่ามากกว่า มาหาคำตอบได้ที่บทความ ไขข้อข้องใจ ซื้อบ้านจัดสรรคุ้มค่าจริงหรือไม่
การเลือกทำเลที่ตั้งของโครงการบ้านที่คุณต้องการซื้อ เป็น 1 ใน 5 สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อบ้าน เพราะจะเกี่ยวข้องกับความสะดวกสบาย และความสุขของการอยู่อาศัยในระยะยาว
โดยเทคนิคการเลือกทำเลซื้อบ้านที่เหมาะสม สามารถทำได้ดังนี้
นอกจากนี้ หากว่าคุณเลือกทำเลซื้อบ้านได้ดี โดยเฉพาะ การซื้อบ้านแถบชานเมือง ใกล้กับบริเวณที่กำลังมีการสร้างทางด่วน หรือกำลังมีการขยายของเส้นทางรถไฟฟ้า ที่จะสร้างแล้วเสร็จในอีกไม่ปีกี่ข้างหน้า ก็อาจจะทำให้บ้านที่คุณเลือกซื้อกลายเป็นบ้านในทำเลทองที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้ด้วย
ในการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน คุณจะพบว่าบ้านแต่ละประเภท แต่ละแบบ แต่ละทำเลที่ตั้ง ก็จะมีราคาบ้านที่สูง-ต่ำ แตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ ความต้องการซื้อ-ขาย โปรโมชั่น มาตรการของรัฐ เป็นต้น
โดยหากว่าคุณอยากเลือกซื้อบ้านจากงบประมาณที่กำหนด เทคนิคที่จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนไม่หนักไปที่ค่าบ้านจนเกินไป คือ
เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ 6 ข้อควรรู้เมื่อจะซื้อบ้านหลังแรก [คู่มือสำหรับมือใหม่ที่อยากมีบ้าน]
ที่จะช่วยให้คุณได้รู้เทคนิคของการเตรียมพร้อมสู่การเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกได้ตามความต้องการ
เมื่อคุณได้พบกับบ้านในฝันที่ต้องการเป็นเจ้าของแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกู้ซื้อบ้านหรือขอสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งถ้าคุณสามารถเตรียมตัวได้ดี มีข้อมูลแน่น และเตรียมพร้อมเอกสารทุกอย่างที่ครบถ้วน ก็จะช่วยให้การขอกู้ซื้อบ้านกับธนาคารนั้นไม่มีปัญหา สะดวก และได้รับการอนุมัติที่รวดเร็ว
หากว่าคุณยังไม่คุ้นเคยกับคำศัพท์การเงินมาก่อน มาเปิดคลังศัพท์ที่เกี่ยวกับการกู้ซื้อบ้านกับธนาคารด้วย 10 คำศัพท์เกี่ยวกับการกู้อสังหาริมทรัพย์ที่ควรรู้ ที่จะช่วยให้คุณได้ทำความเข้าใจก่อนการเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านได้ดียิ่งขึ้น
โดยสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนกู้ซื้อบ้าน ได้แก่
ก่อนตัดสินใจเลือกกู้บ้านกับธนาคารจะต้องศึกษาข้อมูลให้ครบรอบด้าน ตั้งแต่การเลือกธนาคาร การเลือกโครงการสินเชื่อ และการเลือกดอกเบี้ยที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถเตรียมความพร้อมทางการเงินได้มากที่สุด
เลือกธนาคารที่ตอบโจทย์ในการกู้ซื้อบ้าน
หากคุณกำลังมีแผนกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกกู้บ้านธนาคารไหนดี ที่จะตอบโจทย์ในการกู้ซื้อบ้านที่จะทำให้ได้วงเงินสูง และดอกเบี้ยต่ำ สิ่งที่คุณต้องทำคือการหาข้อมูลสินเชื่อเพื่อบ้านของแต่ละธนาคารมาวางเปรียบเทียบกัน
โดยข้อมูลที่ต้องใช้ในการเปรียบเทียบกัน ได้แก่
ถ้าคุณกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ร่วมซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกับแฟนหรือกับคนในครอบครัว สามารถทำความเข้าใจการกู้ร่วมซื้อบ้านต่อได้ที่: “กู้ร่วมซื้อบ้าน” มีข้อดีและข้อควรระวังอย่างไรบ้าง
เข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ในการผ่อนชำระเงินกู้บ้านกับธนาคารแต่ละเดือน จะมีการคิดดอกเบี้ยรวมไปด้วยในแต่ละเดือนตามอัตราที่กำหนด
ซึ่งการเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะสมกับรายได้ของคุณ รวมถึงการกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยให้คุณประหยัดเงิน และชำระหนี้หมดได้ไวขึ้นด้วย
โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านจะมีด้วยกัน 2 ประเภทคือ
ส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ให้กับผู้กู้ในช่วง 1-3 ปีแรก (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและโครงการ) จากนั้นจะเริ่มคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว
สำหรับมือใหม่ที่อยากกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำ สามารถเรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติมได้ที่: กู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ใครๆ ก็ทำได้ [เทคนิคกู้ซื้อบ้านสำหรับมือใหม่]
การเตรียมเอกสารสำหรับยื่นกู้ให้พร้อมและครบถ้วน เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อเพื่อบ้านได้รับการอนุมัติเร็วขึ้น
โดยเอกสารประกอบการยื่นกู้ซื้อบ้าน จะมีอยู่ 3 หมวดหลักๆ คือ
นอกจากนี้ ยังมีหนังสือให้ยินยอมตรวจสถานะประวัติค้างชำระหนี้ เพื่อทางธนาคารจะตรวจสอบและพิจารณาเครดิตของผู้กู้ได้อย่างละเอียด และในกรณีที่กู้ร่วมซื้อบ้าน ผู้กู้ร่วมจะต้องยื่นเอกสารส่วนตัวและเอกสารแสดงรายได้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งหลังจากที่ยื่นเอกสารขอกู้ซื้อบ้านกับธนาคารแล้ว ธนาคารจะทำการพิจารณาดอกเบี้ยและวงเงินตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยถ้าผู้กู้มีภาระหนี้สินเก่าไม่เยอะ มีรายได้สม่ำเสมอและมีความมั่นคงทางการเงิน ผู้กู้ก็อาจจะได้รับการอนุมัติเงินวงกู้ซื้อบ้านที่สูง พร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงด้วย
กู้ซื้อบ้านกับธนาคารแล้ว ทำไมต้องมีการวางแผนเก็บเงินสดสำหรับซื้อบ้านอีก?
นั่นเพราะว่าในการกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร หรือการขอสินเชื่อเพื่อบ้านกับธนาคารนั้น ธนาคารจะมีการกำหนดวงเงินกู้สินเชื่อบ้านตามความสามารถทางการเงินของผู้กู้ ซึ่งจะประเมินจากรายได้ต่อเดือน รวมกันหนี้สินของผู้กู้ด้วย
ทำให้โดยทั่วไปแล้วผู้กู้จะได้รับวงเงินสินเชื่อเพื่อบ้านประมาณ 80-95% ของราคาบ้าน หรือในบางกรณีผู้กู้ก็อาจจะได้สินเชื่อเต็มวงเงิน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและเงื่อนไขสินเชื่อเพื่อบ้านของแต่ละธนาคาร
คำนวณวงเงินกู้ซื้อบ้านคร่าวๆ ได้อย่างไร?
เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวก่อนเก็บเงินซื้อบ้านได้ตามเป้าหมาย ลองนำรายได้ของคุณมาคำนวณดูก่อนว่าจะได้รับวงเงินจากการกู้ซื้อบ้านอยู่ที่ประมาณเท่าใด
โดยทั่วไปแล้วธนาคารจะกำหนดอัตราผ่อนชำระไว้ที่ประมาณ 40% ของรายรับของผู้กู้ในแต่ละเดือน โดยจะคิดรวมกับหนี้สินที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนด้วย
เช่น ผู้กู้มีรายรับอยู่ที่ 35,000 บาท/เดือน และมีหนี้สินต่อเดือนอยู่ที่ 5,000 บาท เท่ากับว่าจะมีความสามารถในการผ่อนชำระค่าบ้านต่อเดือนสูงสุดจะอยู่ที่ (35,000-5,000) – 40% = 12,000 บาท
จากนั้นนำความสามารถในการผ่อนชำระค่าบ้านต่อเดือนสูงสุด ไปคูณกับ 150 จะได้เป็นวงเงินกู้สูงสุดโดยประมาณของธนาคาร คือ 12,000 x 150 = 1,800,000 บาท นั่นเอง
หรือคุณสามารถอ่านวิธีคำนวณวงเงินกู้บ้านสูงสุด กับ ธอส. แบบละเอียดได้ที่: [คำนวณวงเงินกู้บ้าน] เงินเดือนเท่านี้กู้ซื้อบ้านได้ราคาเท่าไร?
ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านประมาณเท่าไร?
หากคุณได้คำนวณแล้วว่าวงเงินกู้ซื้อบ้านที่รับจากธนาคารนั้น ยังไม่เต็มจำนวนของราคาบ้าน คุณจึงจำเป็นต้องมีเงินสดประมาณ 5-20% ของราคาบ้านเอาไว้สำหรับดาวน์บ้าน เพื่อทำให้วงเงินกู้กับธนาคารลดลง
และยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าจอง ค่าทำสัญญา ค่าจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าส่วนกลาง หรือถ้าคุณอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ สามารถอ่านต่อได้ที่: 10 ค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านที่ควรรู้
โดยถ้าคุณกำลังวางแผนเก็บเงินก้อนสำหรับดาวน์บ้านอยู่ สามารถเริ่มได้จากการตั้งเป้าหมายการเก็บออมเงินของคุณ และวางแผนการเงินในแต่ละเดือนใหม่ เพื่อให้การเก็บเงินก้อนสำหรับใช้ซื้อบ้านให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
หรือถ้าคุณยังไม่รู้จะเริ่มวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านอย่างไรดี ก็สามารถใช้ เคล็ดลับการเก็บเงินซื้อบ้าน เพื่อเป็นแนวทางในการเก็บเงินก้อนได้เลย
สินเชื่อเพื่อบ้านเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ทางธนาคารจะอนุมัติให้กับผู้กู้ ดังนั้นในการพิจารณาสินเชื่อ ธนาคารจะดูจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาว่าดีหรือไม่ รวมถึงการดูภาระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วย
ถ้าหากว่า ติดแบล็คลิสต์กู้ซื้อบ้านได้หรือไม่? คำตอบคือ ยังไม่สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้
โดยธนาคารจะตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ผ่าน “เครดิตบูโร” ซึ่งถ้าผู้ยื่นกู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี หรือยังชำระหนี้ไม่แล้วเสร็จจำนวนมาก เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือวงเงินจากการขออื่นๆ ที่ได้รับการอนุมัติจากสถาบันการเงิน ทางธนาคารก็จะยังไม่อนุมัติสินเชื่อให้กับผู้กู้ได้
หากผู้กู้ต้องการให้ประวัติทางการเงินดีขึ้นจะต้องจัดการหนี้เก่าทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อ ให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อบ้านจากธนาคารได้ง่ายขึ้น หรือสามารถเข้าร่วมโครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน เพื่อรับคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติ สำหรับการขอสินเชื่อเพื่อบ้านให้เป็นไปได้เร็วยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่กำลังวางแผนกู้ซื้อบ้านอยู่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีสินเชื่อสำหรับซื้อที่อยู่อาศัย ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับเงื่อนไขของคนแต่ละสายอาชีพ และเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยหลากหลายกลุ่ม
อีกทั้งในปี 2564 ท่ามกลางผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ธอส. ก็ยังมีโปรโมชั่นกู้ซื้อบ้านที่เอื้อต่อความต้องการของคนที่อยากมีบ้าน โดยคุณสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: อยากมีบ้านมาทางนี้! ปี 2564 โอกาสดีสำหรับการกู้ซื้อบ้าน!
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านจาก ธอส. สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมเปรียบเทียบและยื่นข้อเสนอด้านสินเชื่อที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือ
ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์: 02 645 9000